เช็คเงินทรู วิธีเช็คง่าย ด้วยตนเอง 3 วิธีให้เลือก ดูค่าค้าง บริการทรูมูฟ เอช (Truemove H)

91453
การเช็คเงินทรู ง่ายๆ ที่เราก็ทำได้ ในปัจจุบันนี้คนส่วนมากนั้นเลือกติดต่อสื่อสารกันโดยผ่านทางการส่งข้อความจากแอปพิเคชั่นกันเป็นส่วนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่โทรหากันเลย การติดต่อสื่อสารผ่านการโทรหากันนั้นก็ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราจะทราบรายละเอียดต่างๆ ง่ายกว่าการรับส่งข้อมูลผ่านแอพต่างๆ โดยปัญหาในปัจจุบันนี้ที่คนใช้ Smartphone ส่วนมากมักจะพบกันก็คือเราไม่ทราบว่าค่าโทรที่เราใช้งานอยู่มียอดอยู่ประมาณเท่าไร โดยวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ที่เลือกใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของทางทรูไปดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่เราสามารถเช็คเงินทรู ได้แบบง่ายๆ สำหรับวิธีการตรวจเช็คเงินทรู นั้นจะมีวิธีดังนี้

วิธีเช็คเงินทรู (Truemove H) มี 3 วิธี

  • เช็คยอดค่าโทร กด *939# โทรออก หรือกด #123# โทรออก (ฟรี)
  • เช็คยอดค่าบริการผ่านแอพ TrueYou
  • เช็คยอดค่าบริการผ่าน True iService

วิธีที่ 1 เช็คเงินทรู

– กด *939# โทรออก (ฟรี)
– หรือกด #123# โทรออก

วิธีที่ 2 เช็คยอดค่าบริการผ่านแอพ TrueYou

2.1 โหลด App TrueYou
IOS => https://itunes.apple.com/th/app/trueyou/id589399246?mt=8
Android => https://play.google.com/store/apps/details?id=com.tdcm.android.trueyou&hl=th
2.2 login ด้วยทรูไอดี (คือ อีเมล์/เบอร์มือถือ/เบอร์ทรูการ์ด ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ iservice.truelife.com, truelife.com, true-u.com, weloveshopping.com)
2.3 เลือกที่ => ชำระค่าบริการ fr_426_size880
3. ข้อมูลยอดค่าบริการจะปรากฏ trueyou

วิธีที่ 3 เช็คยอดค่าบริการผ่านเว็บ True iService


1. เข้าไปที่เว็บ https://iservice.truecorp.co.th/?ln=en 
2. login ด้วยทรูไอดี (คือ อีเมล์/เบอร์มือถือ/เบอร์ทรูการ์ด ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ iservice.truelife.com, truelife.com, true-u.com, weloveshopping.com)
iserviceTrue

ปัญหาการค้างค่าบริการทรูมูฟ

ในปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับคนเราในโลกเทคโนโลยีขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแบบนี้ และ Smartphone เป็นอุปกรณ์พกพาตัวหนึ่งที่เรานั้นสามารถทำการติดต่อสื่อสารไปหาคนอื่นๆ ได้ การติดต่อสื่อสารในโลกปัจจุบันนี้นั้นมีอยู่ 2 แบบ ก็คือ แบบการโทรหากัน และแบบการติดต่อสื่อสารผ่านการส่งข้อความโดยผ่านทางแอปพิเคชั่นอย่าง Line, Whatapps หรือ Wechat เป็นต้น โดยการติดต่อสื่อสารในแต่ละครั้งเราไม่ทราบว่าเราเสียค่าใช้บริการไปเท่าไหร่ และบางคนอาจจะได้รับแจ้งบิลยอดค้างค่าบริการบ่อยๆ ทั้งที่เราอาจชำระค่าบริการไปแล้ว ดังนั้นหากเราทราบว่าค่าบริการหรือค่าโทรของเรานั้นมียอดอยู่ที่เท่าไร จะดีกว่าการที่เรารอบิลจากผู้ให้บริการแน่นอน